เมนู

อรรถกถาภมิจาลสูตรที่ 10


ภูมิจาลสูตรที่ 10

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:-
ในบทว่า นิสีทนํ นี้ ท่านประสงค์เอาท่อนหนัง. บทว่า
อุทฺเทนเจติยํ ท่านกล่าวหารที่เขาสร้างไว้ในที่อยู่ของอุทเทนยักษ์.
แม้ในโคตมกเจดีย์เป็นต้น ก็นัยนี้เหมือนกัน. บทว่า ภาวิตา แปลว่า
เจริญแล้ว. บทว่า พหุลีกตา แปลว่า. กระทำให้มาก. บทว่า ยานีกตา
แปลว่า ทำให้เป็นดุจยานที่เทียมแล้ว. บทว่า วตฺถุกตา แปลว่า
ทำให้เป็นดุจที่ตั้ง เพราะอรรถว่าเป็นที่พึงอาศัย. บทว่า อนุฏฺฐิตา
แปลว่า ตั้งไว้แล้ว. บทว่า ปริจิตา แปลว่า สั่งสมแล้ว โดยรอบ คือ
เจริญดีแล้ว. บทว่า สุสมารทฺธา แปลว่า เริ่มไว้เป็นอย่างดีแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสโดยมิได้กำหนดอย่างนี้แล้ว
เมื่อจะทรงแสดงโดยกำหนดแน่นอนอีก จึงตรัสคำมีอาทิว่า ตถาคตสฺส
โข
ดังนี้. ก็ในที่นี้บทว่า กปฺปํ ได้แก่ อายุกัป (คือกำหนดอายุอย่าง
สูงของคนในยุคนั้น ๆ). พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงดำรงพระชนม์อยู่
ตลอดกำหนดอายุของคนทั้งหลายในสมัยนั้น ๆ อย่างเต็มที่. บทว่า
กปฺปาวเสสํ วา ได้แก่ หรือเกิน 100 ปีซึ่งได้ตรัสไว้ว่า "น้อย
หรือยิ่งกว่า". แต่พระมหาสิวเถระกล่าวว่า ธรรมดาว่าพระพุทธะ
ทั้งหลาย ย่อมไม่ทรงบันลือในที่มิใช่ฐานะ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงเข้าสมาบัติบ่อย ๆ ทรงข่มเวทนาใกล้ตายได้ พึงดำรงอยู่ได้
ตลอดภัทรกัปทีเดียว. ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระองค์จึงไม่ดำรง
อยู่ตลอดภัทรกัป ? ตอบว่า ขึ้นชื่อว่าสรีระที่มีใจครอง ถูกชรา